HiCorder, Oscilloscope, และ Data Logger เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและบันทึกสัญญาณไฟฟ้าหรือสัญญาณทางกายภาพ แต่มีความสามารถและจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนตามช่วงความถี่ของการใช้งาน
นี่คือการเปรียบเทียบความแตกต่างหลักระหว่างเครื่องมือทั้งสามชนิด โดยเน้นที่ Hioki Memory HiCorder MR8848:
| คุณสมบัติ | Oscilloscope (ออสซิลโลสโคป) | Memory HiCorder (MR8848) | ️ Data Logger (เครื่องบันทึกข้อมูล) |
| ความเร็วในการสุ่มตัวอย่าง | สูงมาก (โดยทั่วไป > 500 MS/s) | ปานกลางถึงสูง (สูงสุดถึง 20 MS/s) | ต่ำ (โดยทั่วไป < 10 kS/s หรือชั่วโมง/วัน) |
| ความยาวในการบันทึก | สั้น (ออกแบบมาเพื่อจับเหตุการณ์ชั่วขณะ) | ยาว (สามารถบันทึกรูปคลื่นต่อเนื่องได้นาน) | ยาวมาก (บันทึกข้อมูลเป็นวัน/สัปดาห์/เดือน) |
| จำนวนช่องสัญญาณ | น้อย (ส่วนใหญ่มักมี 2-4 ช่องสัญญาณ) | มาก (รองรับหลายสิบช่องสัญญาณ) | มาก (ตั้งแต่ไม่กี่ช่องไปจนถึงหลายร้อยช่อง) |
| การแยกช่องสัญญาณ (Isolation) | ไม่มี (ส่วนใหญ่มักเชื่อมโยงกับกราวด์) | มี (ทุกช่องสัญญาณ แยกส่วน กันอย่างสมบูรณ์) | ส่วนใหญ่ ไม่มี หรือต้องใช้โมดูลราคาแพง |
| วัตถุประสงค์หลัก | การวิเคราะห์สัญญาณความถี่สูง, การดีบักวงจรอิเล็กทรอนิกส์ | การวินิจฉัยปัญหาของระบบไฟฟ้ากำลัง, เครื่องกล, และระบบควบคุม (Mechatronics) | การติดตามแนวโน้มและการตรวจสอบสภาพแวดล้อม/กระบวนการในระยะยาว |
คำอธิบายความแตกต่างเชิงลึก
1. Memory HiCorder (เช่น MR8848)
-
จุดยืน: อยู่ระหว่าง Oscilloscope และ Data Logger เป็นเครื่องมือวัดที่เน้น ความสมดุลระหว่างความเร็วในการบันทึกหลายช่องสัญญาณในระยะยาว
-
ความสามารถหลัก: Isolated Channels ทำให้สามารถวัดสัญญาณที่แตกต่างศักย์ไฟฟ้ากันได้อย่างปลอดภัย (เช่น วัดสายไฟกำลังและสัญญาณควบคุม 5V พร้อมกัน) โดยไม่เกิดการลัดวงจร
-
การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานที่ต้องบันทึกสัญญาณทางกายภาพ (อุณหภูมิ, การสั่น) และสัญญาณไฟฟ้าพร้อมกัน เพื่อทำ Correlation Analysis และหา สาเหตุหลัก (Root Cause) ของปัญหาในระบบไฟฟ้ากำลัง เครื่องยนต์ และอินเวอร์เตอร์
2. Oscilloscope (ออสซิลโลสโคป)
-
จุดยืน: เป็นราชาแห่ง ความเร็ว ในการสุ่มตัวอย่าง
-
ความสามารถหลัก: ความเร็วในการสุ่มตัวอย่างที่สูงมาก ทำให้สามารถจับรายละเอียดของสัญญาณความถี่สูง (เช่น สัญญาณจาก CPU, สัญญาณสื่อสารดิจิทัล) ที่เปลี่ยนแปลงในระดับนาโนวินาทีได้
-
ข้อจำกัด: โดยทั่วไปมีช่องสัญญาณน้อย (4-8 ช่อง) และไม่เหมาะสำหรับการบันทึกข้อมูลต่อเนื่องเป็นเวลานานเนื่องจากมีหน่วยความจำจำกัด และ ช่องสัญญาณไม่ได้แยกส่วน จึงต้องระมัดระวังเมื่อวัดวงจรที่มีศักย์ไฟฟ้าต่างกัน
3. Data Logger (เครื่องบันทึกข้อมูล)
-
จุดยืน: เน้นที่ การบันทึกข้อมูลระยะยาว ที่ความเร็วต่ำ
-
ความสามารถหลัก: สามารถบันทึกข้อมูลได้หลายช่องสัญญาณเป็นระยะเวลานานมาก (เช่น บันทึกอุณหภูมิทุกๆ 1 นาที เป็นเวลา 1 สัปดาห์) โดยใช้หน่วยความจำขนาดใหญ่ (SD Card หรือหน่วยความจำภายใน)
-
ข้อจำกัด: ความเร็วในการสุ่มตัวอย่างต่ำ เกินกว่าที่จะจับรูปคลื่น (Waveforms) ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ แต่มักจะบันทึกเพียงค่าเฉลี่ยหรือค่า RMS ในช่วงเวลาที่กำหนด
สรุป: หากคุณต้องการเห็น รูปคลื่น (Waveform) ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วขณะในวงจรที่มีกราวด์ร่วมกัน ให้ใช้ Oscilloscope แต่ถ้าคุณต้องการ บันทึกรูปคลื่นของสัญญาณที่หลากหลายและมีศักย์ไฟฟ้าต่างกันพร้อมกัน ในระยะเวลาที่นานขึ้น เพื่อหาความสัมพันธ์ของปัญหาทางเครื่องกลและไฟฟ้า ให้เลือกใช้ Memory HiCorder ส่วน Data Logger จะใช้สำหรับการติดตามแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงช้าในระยะยาว
