เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) ของระบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC System) ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โทรคมนาคม (สถานีฐาน), ศูนย์ข้อมูล (Data Center), และโรงไฟฟ้า เพื่อยืนยันว่าแบตเตอรี่สำรองมีประสิทธิภาพและความจุที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง

หน้าที่หลักและคุณสมบัติเด่น

1. ข้อมูลจำเพาะ (Specifications)

• 48V: ออกแบบมาสำหรับชุดแบตเตอรี่ที่มีแรงดันไฟฟ้าที่ระบุ (Nominal Voltage) คือ 48 โวลต์ (V) ซึ่งโดยทั่วไปช่วงการคายประจุจะอยู่ที่ประมาณ 10-60V
• 300A: สามารถควบคุมกระแสการคายประจุได้สูงสุดถึง 300 แอมแปร์ (A) ซึ่งเหมาะสำหรับการทดสอบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุสูง (Ah)
• CT (Capacity Tester): ย่อมาจาก Capacity Tester หรือ เครื่องทดสอบความจุ

2. ฟังก์ชันการทำงานหลัก

• การคายประจุแบบคงที่ (Constant Current Discharge): ทำหน้าที่ดึงพลังงานออกจากแบตเตอรี่ด้วยกระแสที่ตั้งค่าไว้คงที่ เพื่อจำลองโหลดที่สม่ำเสมอและทำการวัดความจุจริงของแบตเตอรี่ (Ah)
• การทดสอบความจุ (Capacity Testing): วัดปริมาณประจุที่แบตเตอรี่จ่ายออกมาทั้งหมดจนกว่าจะถึงระดับแรงดันไฟฟ้าต่ำสุดที่กำหนด (End-of-Discharge Voltage)
• การตรวจสอบเซลล์แบตเตอรี่เดี่ยว (Single Cell Monitoring): รองรับการเชื่อมต่อกับโมดูลวัดแรงดันไร้สาย (Wireless Monitoring Modules) เพื่อตรวจวัดแรงดันของแบตเตอรี่แต่ละเซลล์ (เช่น 2V, 6V, 12V) แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถระบุเซลล์ที่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติได้อย่างแม่นยำ

3. คุณสมบัติเสริม

• หน้าจอสัมผัส (Touch Screen): มีหน้าจอสีขนาดใหญ่ (เช่น 5.7 หรือ 7 นิ้ว) เพื่อความสะดวกในการตั้งค่าและแสดงผลข้อมูลแบบกราฟ (Histogram/Curve)
• ความปลอดภัย: มีระบบป้องกันหลากหลาย เช่น การป้องกันอุณหภูมิเกิน (Over-temperature), กระแสเกิน (Over-current) และการต่อขั้วกลับด้าน (Reverse Polarity)
• การบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูล: สามารถบันทึกข้อมูลการทดสอบภายในเครื่อง และรองรับการดาวน์โหลดข้อมูลผ่าน USB หรือเชื่อมต่อกับ PC เพื่อวิเคราะห์ผลและสร้างรายงาน (Report Generation)